เหตุการณ์ความรุนแรง สงครามอิสราเอลฮามาส ในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจลุกลามขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่น ๆ หากความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไป อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกอย่างรุนแรง เนื่องจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต่างเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่สำคัญ
สงครามอิสราเอลฮามาส ภัยคุกคามต่อราคาน้ำมันโลก
เหตุการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจลุกลามขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ และหากความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไป อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกอย่างรุนแรง เนื่องจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต่างเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่สำคัญ โดยอิสราเอลเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 14 ของโลก และกลุ่มฮามาสเป็นผู้ควบคุมแหล่งก๊าซธรรมชาติในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ความขัดแย้งดังกล่าวอาจทำให้สหรัฐอเมริกาต้องกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง เนื่องจากอิหร่านเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งจะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นไปอีก
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
สงครามอิสราเอล-ฮามาส ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงจำกัด เนื่องจากประเทศไทยมีการค้ากับอิสราเอลเพียง 0.22% ของการค้าทั้งหมดของไทย อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในเชิงลบได้หากลุกลามขยายวงกว้างและส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก
จะลงทุนในช่วงนี้ควรทำอย่างไร
นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกและเศรษฐกิจโลกได้ การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP และ BCP อาจได้รับประโยชน์จากความขัดแย้งดังกล่าว
- ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 โดยทั้งสองฝ่ายต่างยิงโจมตีใส่กันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน และบาดเจ็บกว่า 1,000 คน
- สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ประณามการกระทำของกลุ่มฮามาส โดยเรียกร้องให้กลุ่มดังกล่าวยุติการยิงจรวดใส่อิสราเอล
- สหประชาชาติได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรงและกลับมาเจรจาสันติภาพ