Moneysabuy.com เว็บไซต์ แนะนำ สินเชื่อส่วนบุคคล เงินสด ทันใจ สินเชื่อ ธนาคาร อนุมัติง่าย

Search
Close this search box.
นโยบายเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล

เปิดนโยบายเศรษฐกิจการเงินวาที่รัฐบาลใหม่

หลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่าสถานการณ์การเมืองไทยเริ่มเห็นภาพของรัฐบาลใหม่มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ ถูกนำทัพโดยพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง 2566 นั่นก็คือ พรรคก้าวไกล 

โดย พรรคก้าวไกล ก็ได้ทำการฟอร์มทีมในการจัดตั้งรัฐบาล และประกาศเปิดตัวนโยบายด้านเศรษฐกิจ การเงิน ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตขึ้นและสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นออกมาด้วย ซึ่งในบทความนี้ทาง Moneysabuy เลยขอมาสรุปให้ทุกคนไปพร้อมกันว่า นโยบายเศรษฐกิจการเงินรัฐบาลใหม่ พรรคก้าวไกล มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? 

6 นโยบายเศรษฐกิจการเงิน พรรคก้าวไกล มีนโยบายอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?

เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท

พรรคก้าวไกล เปิดหัวของนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน ด้วยนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ซึ่งทางคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศไว้ว่าถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล นโยบายนี้จะถูกเสนอเข้าสภาทันที ซึ่งทางรัฐบาลเองก็จะมีนโยบายสำหรับการช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการด้วยเช่นกันเช่น การช่วยส่งเงินสมทบประกันสังคม ฯลฯ

โดยการเพิ่มค่าแรงเป็น 450 บาท นั้นพรรคก้าวไกลนอกจากจะมีนโยบายปรับขึ้นให้แล้ว จะยังปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจทุกปี เพื่อให้เหล่าแรงงานได้ร่วมแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมมากที่สุดจากการเติบโตของเศรษฐกิจ สร้างความเป็นอยู่ที่ดี ปากท้องที่ดี รวมถึงอนาคตที่ดี

เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท 

พรรคก้าวไกลเล็งเห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน คือปัญหาความจน ปัญหาปากท้องโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนวัยอื่น ๆ พรรคก้าวไกลเลยมีนโยบายเพิ่มเงินผู้สูงวัยให้เป็นอัตราเดียวคือ เดือนละ 3,000 บาท ภายในระยะเวลา 4 ปี เพื่อให้กลุ่มผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพและมีความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้น ขจัดปัญหาความจนและปากท้องในกลุ่มผู้สูงอายุ 

ลดภาษีนิติบุคคล SMEs ให้เหลือ 0-15%

สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจนั้น เรื่องของการเสียภาษีนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ได้มีนโยบายด้านภาษีที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนในการผลักดันเศรษฐกิจและการเงินของประเทศด้วย เช่นนโยบาย ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล SMEs ให้เหลือ 0-15%, ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ SMEs (ช่วงกำไร 3 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท) จาก 15% เป็น 10%, ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ SMEs (ช่วงกำไร 3 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท) จาก 20% เป็น 15% และสุดท้ายคือการเพิ่มอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับทุนใหญ่ (ช่วงกำไรเกิน 300 ล้านบาท) จาก 20% เป็น 23%

ทั้งนี้เพื่อทำให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจในระดับ SMEs ได้ยกระดับ สร้างแต้มต่อในการแข่งขันกับระบบทุนใหญ่หรือพัฒนาสินค้า/บริการของธุรกิจให้ไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ 

ส่องนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่

หวยใบเสร็จ

นโยบายหวยใบเสร็จนั้น เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่พรรคก้าวไกล สร้างขึ้นมาเพื่อยกระดับภาคธุรกิจอุตสาหกรรม SMEs โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มลูกค้าให้ SMEs ด้วยการเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนที่เลือกซื้อสินค้า SMEs ได้สลากกินแบ่งรัฐบาลฟรีเพื่อนำไปลุ้นเงินรางวัล

โดยนโยบายหวยใบเสร็จนั้น พรรคก้าวไกลระบุเงื่อนไขของกติกาคือ สำหรับลูกค้าคนไหนที่ซื้อสินค้าจาก ร้าน SMEs ที่ร่วมโครงการครบ 500 บาท สามารถนำใบเสร็จไปแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ (จำกัดไม่เกิน 2 ใบ/คน/เดือน และ จำนวน 10 ล้านคน/เดือน) ทำให้มุมของลูกค้าเองลุ้นเงินรางวัลได้ทุกงวด

ส่วนฝั่งของเจ้าของธุรกิจ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการก็สามารถนำยอดขายมาแลกเป็นสลากกินแบ่งของรัฐบาลได้ด้วย โดยเมื่อขายสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ เรียกว่าได้ประโยชน์ 2 ฝ่ายทั้งฝั่งเจ้าของธุรกิจ SMEs และฝั่งลูกค้า ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองของภาค SMEs อีกด้วย

หักค่าใช้จ่ายเหมาภาษี เพิ่มจาก 60% เป็น 90%

อีกหนึ่งนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินของพรรคก้าวไกล รัฐบาลใหม่ ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ SMEs อีกนโยบายหนึ่งก็คือนโยบาย หักค่าใช้จ่ายเหมาภาษีเพิ่มจาก 60% เป็น 90%

โดยพรรคก้าวไกลได้เห็นถึงปัญหาในปัจจุบันของ SMEs ไทยที่กำลังอยู่ในช่วงที่ฝืดเคือง เพราะธุรกิจ SMEs ตอนนี้มีสัดส่วน GDP เพียงแค่ 34 % ของประเทศไทยเท่านั้น และธุรกิจ SMEs ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยธุรกิจระดับเล็กที่ไม่สามารถแข่งขันได้ โดยมีธุรกิจ SMEs จำนวนเพียง 1.4 % เท่านั้นที่เป็น SMEs ขนาดกลาง ในขณะเดียวกันธุรกิจเหล่านี้ต้องเจอกับต้นทุนในการทำธุรกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่าง อัตราภาษีนิติบุคคลที่เท่ากับธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าสามารถทำออกมาได้จริง จะเป็นอีกนโยบายที่ผลักดันเศรษฐกิจไทยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ค่าไฟแฟร์ ปรับลดค่าไฟฟ้าให้กับทุกครัวเรือน

ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกครัวเรือนจะต้องเจอกับปัญหา ‘ค่าไฟฟ้า’ ที่แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทางพรรคก้าวไกลเลยมีนโยบาย ค่าไฟแฟร์ ลดค่าไฟให้กับประชาชนได้อย่างน้อย 70 สตางค์/หน่วย (เฉลี่ยบ้านละ 150 บาท) โดยปรับนโยบายเพื่อให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนกลุ่มทุน มีการเช็กบิลจากรัฐบาลก่อน ไม่อุ้มนายทุน และจะเริ่มทำการเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับสัมปทานทุนใหญ่พลังงานใหม่เพื่อหาทางออกในการลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนทุกครัวเรือน 

สรุป

นโยบายเศรษฐกิจการเงินรัฐบาลใหม่ พรรคก้าวไกล ที่เราได้ยกตัวอย่างมาในบทความนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งหมดของพรรคก้าวไกลเท่านั้น ยังมีนโยบายที่น่าสนใจในด้านต่าง ๆ อยู่อีกมากมาย ที่เราคงต้องรอว่าเมื่อถึงช่วงเวลาในการจัดตั้งรัฐบาล นโยบายต่าง ๆ เหล่านี้จะสามารถถูกนำมาใช้งานได้จริงหรือไม่

 

และสำหรับใครที่ชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตาม Moneysabuy ไว้เพื่อไม่พลาดทุกบทความด้านสินเชื่อ การเงิน รวมถึงเทรนด์ของเศรษฐกิจที่น่าสนใจส่งตรงถึงคุณ