เลือกตั้ง 66 รวมนโยบายพรรคการเมืองที่น่าสนใจ กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดหนี้ให้ประชาชน

รวมนโยบายพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง 2566 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ เรารวบรวมนโยบายสำคัญของ 5 พรรคการเมืองดัง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาการเงินและเศรษฐกิจ ลดหนี้เพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง เราสรุปให้คุณหมดแล้ว

พรรคเพื่อไทย

“พรรคเพื่อไทย” ในการเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้ ทางพรรคได้ออกนโยบายบริหารเศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้องให้แก่พี่น้องประชาชนเป็นหลัก โดยสิ่งที่น่าสนใจคือแคนดิเดตนายกที่ส่งมา 3 คนได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน และชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งนโยบายที่น่าสนใจของพรรคเพื่อไทย มีดังนี้

นโยบายพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ

• เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570
• สร้างเขตธุรกิจใหม่ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่
• คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้เงิน 10,000 บาท ลงกระเป๋าเงินดิจิทัล สำหรับการใช้จ่ายใกล้บ้าน
• จบปริญญาตรี หรือทำงานราชการเงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท ภายในปี 2570 การันตีทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน
• ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Blockchain Hub และ FinTech Center ของอาเซียน
• เปิดประตูการค้า เสริมโอกาสการค้าต่างประเทศด้วยยกระดับสนามบินนานาชาติให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยว 120 ล้านคน และปริมาณการขนส่งสินค้าคาร์โกจำนวน 3 ล้านตัน ภายในปี 2570

นโยบายพรรคเพื่อไทยอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• ลดราคาน้ำมัน แก๊ส และไฟฟ้า เริ่มทำทันที
• ปรับเปลี่ยนหนังสือเดินทางไทยให้สามารถเดินทางได้ทั่วโลก
• สิทธิความหลากหลายทางเพศ สมรสเท่าเทียม
• รถไฟฟ้ากรุงเทพฯ 20 บาทตลอดสาย ลดค่าครองชีพให้ประชาชน
• ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้รถไฟชั้นสามทุกขบวน ทุกเส้นทางในประเทศ
• ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปี และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV
• นำร่องให้กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลประจำเขตครบทั้ง 50 เขต
• โรงเรียนสองภาษาทุกท้องถิ่น

พรรคก้าวไกล

พรรคก้าวไกล ถือเป็นพรรคที่กำลังเป็นกระแสด้วยจุดยืนด้านนโยบายและอุดมการณ์ที่ชัดเจน ทำให้การเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้พรรคก้าวไกล เป็นอีกพรรคการเมืองที่น่าจับตามองมาก ๆ นำโดยหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกคนเดียวของพรรคคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ซึ่งนโยบายที่น่าสนใจของพรรคก้าวไกล มีดังนี้

นโยบายพรรคก้าวไกล ด้านเศรษฐกิจ

• ปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้า ให้ไทยมีความเท่าเทียมประเทศอื่น ๆ 
• เพิ่มจำนวนใบอนุญาตธนาคารเสมือนจริง (Virtual Bank) อย่างน้อย 3 เท่า
• ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท/วัน และปรับเพิ่มขึ้นทุกปี เริ่มทำทันที
• ลดค่าไฟให้ประชาชนอย่างน้อย 70 สตางค์ต่อหน่วย
• เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ SME ได้เงินทุน 200,000 รายต่อปี
  สร้างแคมเปญ “หวยใบเสร็จ” ซื้อสินค้าจาก SME สามารถนำมาลุ้นโชคเป็นเงินรางวัลหลักล้านได้
• ส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-การท่องเที่ยวสีเขียว
  จัดสร้างคาสิโนถูกกฎหมาย-คาสิโนออนไลน์แบบถูกกฎหมาย ควบคุมการทำงานโดยรัฐบาล 

นโยบายพรรคก้าวไกลอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสม
• เปลี่ยนกระทรวงวัฒนธรรม เป็น กระทรวงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมสร้างสรรค์
• อาชีพให้บริการทางเพศถูกกฎหมาย ปลดล็อกเซ็กซ์ทอย และหนังผู้ใหญ่
• ยกเลิกระบบแต่งตั้ง ผู้ว่าราชการประจำจังหวัด เปลี่ยนใหม่ให้ทำประชามติเลือกตั้ง “นายกจังหวัด” ทั่วประเทศ
• ควบคุมราคารถเมล์และรถไฟฟ้า 8-45 บาท ตลอดสาย ผ่านการใช้บัตรใบเดียว
• อุดหนุนงบประมาณ 10,000 ล้านบาท รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัดภายใน 7 ปี ลดมลพิษให้ประเทศ
• มอบเงินเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี 1,200 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน
• จัดสร้างกองทุนดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง งบประมาณเฉลี่ย 9,000 บาทต่อคนต่อเดือน
• จัดทำ ‘สิทธิการุณยฆาต’ หรือการฆ่าตัวตายด้วยความยินยอมจากแพทย์ จากกรณีผู้ป่วยจากโรคทางกายที่รักษาไม่ได้

พรรคพลังประชารัฐ

พรรคพลังประชารัฐ พรรคหลักของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ในการเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้นำชื่อแคนดิเดตนายกมาเพียงคนเดียวคือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วยนโยบายเด่นที่ต้องการต่อยอดจากปัจจุบันคือ นโยบายสวัสดิการประชารัฐ และชูจุดเด่นด้วยนโยบายต่าง ๆ ที่ต้องการมาเพื่อ ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ โดยนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่น่าสนใจมีดังนี้

นโยบายพรรคพลังประชารัฐ ด้านเศรษฐกิจ

• เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน
• เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 80 ปี เป็น 5,000 บาท
• ออกนโยบาย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” มอบเงินสนับสนุนอายุครรภ์ตั้งแต่ 4-9 เดือน (รวม 5 เดือน) เดือนละ 10,000 บาท และเงินเลี้ยงดูบุตร 3,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 ปี
• ตั้งกองทุนพัฒนาชีวิตผู้พิการ กองทุนช่วยแม่เลี้ยงเดี่ยว กองทุนผู้ที่ติดคุกมีงานทำ และกองทุนที่จะช่วยเกษตรไทย
• ยกระดับความสามารถผู้ผลิตไทย จัดตั้งหน่วยงานด้าน สมาร์ทเอสเอ็มอี 1 ล้าน, สมาร์ทฟาร์มเมอร์ 1 ล้าน, 1 ล้าน สตาร์ทอัพ, 1 ล้าน เมกเกอร์ และ 1 ล้าน สำหรับกลุ่มค้าปลีกชุมชน
• ลดค่าแก๊สหุงต้ม ค่าเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน 

นโยบายพรรคพลังประชารัฐอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• ปรับเปลี่ยนสวัสดิการคุ้มครองแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ
• หลักประกันสุขภาพที่คุ้มครองและครอบคลุมประชาชนทุกคนในประเทศ
• ปฏิรูประบบราชการ ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
• เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการศึกษาความรู้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เรียนฟรี เพิ่มทางเลือกของการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงาน
• เริ่มทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล โดยเฉพาะ 5G ครอบคลุมทั่วประเทศ

พรรคประชาธิปัตย์

พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ของประเทศไทย ที่อยู่คู่กับการเมืองไทยมาหลายยุคหลายสมัย ในการเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มาพร้อมกับนโยบายแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสัมคม พร้อมส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว คือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค มาดูกันว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ในปีนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ด้านเศรษฐกิจ

• นโยบาย SME ต้องมีแต้มต่อ 3 แสนล้าน ทั้งแต้มต่อด้านการผลิต แต้มต่อทางการตลาด และตั้งกองทุน 3 แสนล้านให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน แหล่งทุน สำหรับนำมาขยายกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศ
• ปลดล็อก กบข. และกองทุนเลี้ยงชีพ ให้ซื้อบ้านได้
• ให้เงินอุดหนุนกลุ่มเกษตรกรประมง กลุ่มละ 100,000 บาทต่อปีทุกกลุ่ม
• มอบเงินชาวนาครัวเรือนละ 30,000 บาท
• อุดหนุนธนาคารหมู่บ้านและชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาททั่วประเทศ
• ค่าตอบแทนอาสาสมัครเกษตรประจำหมู่บ้าน 1,000 บาทต่อเดือน

นโยบายพรรคพลังประชาธิปัตย์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่แตะต้องหมวดว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์
• ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว
• เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี ในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน
• เพิ่มการเข้าถึงความรู้ให้ผู้ยากไร้ด้วยนโยบายอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน

พรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย อีกหนึ่งพรรคร่วมรัฐบาลครั้งล่าสุด ที่ในการเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้มรนโยบายชัดเจนที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และเศรษฐกิจให้กับประชาชน โดยส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาเพียงคนเดียวก็คือ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่เด่น ๆ มีดังนี้ 

นโยบายพรรคภูมิใจไทย ด้านเศรษฐกิจ

• นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท
• สนับสนุนการหารายได้เพิ่ม 3 กะ กับนโยบายเปิดพื้นที่ค้าขายตลอดวันเพื่อสร้างงานและกระจายรายได้ให้กับคนกรุงเทพฯ
• สนับสนุนกองทุนท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
• นโยบายสนับสนุนเกษตรกรร่ำรวย รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน
• สนับสนุนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด ช่วยลดมลพิษ
• นโยบายแจกฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ ประหยัดค่าไฟฟ้าเดือนละ 450 บาท
• กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน

นโยบายพรรคภูมิใจไทยอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• จัดตั้งศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ
• จัดตั้งศูนย์ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งฟรีทุกจังหวัด
• ยกสถานะ อสม. เทียบเท่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 
• ลดภาระผู้กู้ กยศ. ต้องปลอดดอกเบี้ย และห้ามฟ้องร้องผู้กู้

สรุป

เห็นได้ชัดเจนเลยว่านโยบายพรรคการเมือง เลือกตั้ง 66 ในครั้งนี้ทุกพรรคการเมืองล้วนแต่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน ลดหนี้ และแก้ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ ให้กับประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งนโยบายต่าง ๆ ที่เราได้นำเสนอของแต่ละพรรคการเมืองก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีนโยบายในเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญและมีประโยชน์ต่อประชาชนอีกมากมาย

เพราะฉะนั้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ Money Sabuy ขอเชิญชวนให้ทุกคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกัน เพื่อเลือกคนที่ชอบ พรรคที่ใช่ มาบริหารงานให้บ้านเมืองของเราทุกคน และอย่าลืมกดติดตาม Money Sabuy ไว้เพื่อไม่พลาดทุกคอนเทนต์คุณภาพส่งตรงถึงคุณ!