การสร้างครอบครัวเป็นก้าวสำคัญในชีวิตคู่ การวางแผนเก็บเงินจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการวางแผนกับ 4 แนวทาง วางแผนเก็บเงินสำหรับการสร้างครอบครัว โดยเน้นไปที่ความจำเป็นในการรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
4 แนวทาง วางแผนเก็บเงินสำหรับการสร้างครอบครัว
สำหรับการวางแผนเก็บเงินสำหรับการสร้างครอบครัว เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น เพราะจะช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั้น มีมากมาย เช่น 1.ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน 2.ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน 3.ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ 4.ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร 5.ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ดังนั้นหากครอบครัวไม่มีเงินเก็บไว้รองรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินได้ เช่น ต้องกู้ยืมเงินจากผู้อื่น หรือต้องลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสุขของครอบครัวได้ สำหรับ 4 แนวทางการวางแผนเก็บเงินสำหรับครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินและสามารถเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ ดังนี้
1.กำหนดเป้าหมายการออม
การกำหนดเป้าหมายการออมเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เพราะจะช่วยให้เรากำหนดทิศทางและแนวทางการออมได้อย่างเหมาะสม เป้าหมายการออมที่ดีควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
- SMART หมายถึง Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound
- เฉพาะเจาะจง เป้าหมายการออมควรมีความชัดเจน ระบุได้อย่างชัดเจนว่าต้องการเก็บเงินไว้เพื่ออะไร เช่น เก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน เก็บเงินเพื่อเกษียณ เป็นต้น
- วัดผลได้ เป้าหมายการออมควรสามารถวัดผลได้ เช่น ต้องการเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี
- บรรลุได้ เป้าหมายการออมควรมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุได้ ขึ้นอยู่กับรายได้และรายจ่ายในปัจจุบัน
- มีความเกี่ยวข้อง เป้าหมายการออมควรมีความเกี่ยวข้องและสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินโดยรวมของเรา เช่น หากเป้าหมายทางการเงินโดยรวมของเราคือการเกษียณอายุอย่างสุขสบาย เป้าหมายการออมของเราก็จะเกี่ยวข้องกับการออมเงินเพื่อเกษียณอายุ
- มีกำหนดเวลา เป้าหมายการออมควรกำหนดกรอบเวลาไว้อย่างชัดเจน เช่น ต้องการเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี
นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายการออมควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
- อายุ อายุเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเป้าหมายการออม เพราะหากเราอายุน้อย เรามีเวลาในการออมมากกว่า หากเราอายุมาก เราอาจต้องออมเงินมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออมที่ตั้งไว้
- รายได้และรายจ่าย รายได้และรายจ่ายเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเป้าหมายการออม เพราะเราต้องพิจารณาว่ามีเงินเหลือเก็บเพียงพอที่จะออมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
- เป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ เราควรพิจารณาเป้าหมายทางการเงินอื่นๆ ของเราด้วย เช่น หากเรามีเป้าหมายที่จะซื้อบ้านภายใน 5 ปี เราก็ควรกำหนดเป้าหมายการออมเงินเพื่อซื้อบ้านไว้ด้วย
ตัวอย่างการกำหนดเป้าหมายการออม
- เป้าหมายการออมระยะสั้น เช่น เก็บเงินเพื่อซื้อของที่ต้องการ เก็บเงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เก็บเงินเพื่อแต่งงาน เป็นต้น
- เป้าหมายการออมระยะกลาง เช่น เก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน เก็บเงินเพื่อซื้อรถ เก็บเงินเพื่อการศึกษาบุตร เป็นต้น
- เป้าหมายการออมระยะยาว เช่น เก็บเงินเพื่อเกษียณอายุ เก็บเงินเพื่อลงทุน เป็นต้น
2 .คำนวณความสามารถในการออม
สำหรับความสามารถในการออม คือ เงินเหลือเก็บสุทธิของแต่ละเดือน ซึ่งคำนวณได้จากรายได้สุทธิหักลบด้วยรายจ่ายทั้งหมด
สูตรการคำนวณความสามารถในการออม
- ความสามารถในการออม = รายได้สุทธิ – รายจ่ายทั้งหมด
ตัวอย่างการคำนวณความสามารถในการออม
สมมติว่า นาย A มีรายได้สุทธิต่อเดือน 50,000 บาท และรายจ่ายทั้งหมดต่อเดือน 40,000 บาท ดังนั้น ความสามารถในการออมต่อเดือนของนาย A จึงเท่ากับ 50,000 – 40,000 = 10,000 บาท
ความสามารถในการออมเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เพราะจะช่วยให้เรากำหนดเป้าหมายการออมได้อย่างเหมาะสม หากเรามีความสามารถในการออมสูง เราก็สามารถออมเงินได้มาก เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ได้ นอกจากนี้ ความสามารถในการออมยังสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของเรา หากเรามีความสามารถในการออมสูง ก็แสดงว่าเรามีสถานะทางการเงินที่มั่นคง
วิธีเพิ่มความสามารถในการออม
มีวิธีเพิ่มความสามารถในการออมได้หลายวิธี เช่น
- เพิ่มรายได้ การเพิ่มรายได้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความสามารถในการออม เช่น หางานทำเพิ่ม ทำงานพิเศษ หรือลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้
- ลดรายจ่าย การลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นก็จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บมากขึ้น เช่น งดซื้อของฟุ่มเฟือย ประหยัดค่าเดินทาง กินอาหารนอกบ้านน้อยลง เป็นต้น
- จัดสรรเงินออมให้เป็นระบบ การวางแผนและจัดสรรเงินออมให้เป็นระบบจะช่วยให้เราเก็บเงินได้มากขึ้น เช่น ตั้งเป้าหมายการออม กำหนดแผนการออม ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เป็นต้น
3.เลือกผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสม
การเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เพราะผลิตภัณฑ์การออมแต่ละประเภทมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป การเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการออมที่ตั้งไว้ได้
ในการเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสม เราต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เป้าหมายการออม เป้าหมายการออมเป็นตัวกำหนดประเภทของผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสม เช่น หากเป้าหมายการออมระยะสั้น เราสามารถออมเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำได้ หากเป้าหมายการออมระยะยาว เราสามารถออมเงินในกองทุนรวม หรือลงทุนในหุ้นได้
- ระยะเวลาการออม ระยะเวลาการออมเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น หากระยะเวลาการออมสั้น เราควรเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำ หากระยะเวลาการออมยาว เราอาจเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีความเสี่ยงสูงได้ เช่น กองทุนรวม หรือลงทุนในหุ้น
- ความสามารถในการรับความเสี่ยง ความสามารถในการรับความเสี่ยงเป็นตัวกำหนดประเภทของผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสม เช่น หากความสามารถในการรับความเสี่ยงต่ำ เราควรเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีความเสี่ยงต่ำ หากความสามารถในการรับความเสี่ยงสูง เราอาจเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีความเสี่ยงสูงได้
- สภาพคล่อง สภาพคล่องเป็นตัวกำหนดความสะดวกในการเข้าถึงเงินออม เช่น หากต้องการใช้เงินออมได้อย่างรวดเร็ว เราควรเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำ หากไม่ต้องการใช้เงินออมเร็ว เราอาจเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่มีสภาพคล่องต่ำได้
- ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายเป็นตัวกำหนดต้นทุนในการออม เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์มักจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่บัญชีเงินฝากประจำอาจมีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชี หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงินก่อนกำหนด เป็นต้น
นอกจากนี้ การเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสม เราควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เงื่อนไขการคุ้มครองเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์การออมประเภทต่างๆ
ผลิตภัณฑ์การออมในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท ดังนี้
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เป็นผลิตภัณฑ์การออมที่มีสภาพคล่องสูง ฝาก-ถอนได้ตลอดเวลา อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ
- บัญชีเงินฝากประจำ เป็นผลิตภัณฑ์การออมที่มีสภาพคล่องต่ำ ฝากเงินระยะเวลาที่กำหนด อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
- กองทุนรวม เป็นผลิตภัณฑ์การออมแบบรวมกลุ่ม บริหารโดยผู้จัดการกองทุน ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุน
- การลงทุน เป็นผลิตภัณฑ์การออมที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงสูง
4.หมั่นตรวจสอบและทบทวนเป้าหมาย
การวางแผนการเงินส่วนบุคคลเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องหมั่นตรวจสอบและทบทวนเป้าหมายอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายยังสอดคล้องกับสถานการณ์และเป้าหมายทางการเงินโดยรวมของเรา ทบทวนเป้าหมายการออมควรทำเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น แต่งงาน ซื้อบ้าน เปลี่ยนงาน เป็นต้น ในการทบทวนเป้าหมายการออม เราสามารถพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เป้าหมายทางการเงินโดยรวม เป้าหมายทางการเงินโดยรวมของเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ เช่น หากเราแต่งงานแล้ว เราอาจต้องการเพิ่มเป้าหมายการออมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายในอนาคต
- รายได้และรายจ่าย รายได้และรายจ่ายของเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ เช่น หากเราได้รับเงินเดือนขึ้น เราอาจเพิ่มเป้าหมายการออมได้
- สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอาจเปลี่ยนแปลงได้ เช่น หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เราอาจต้องปรับแผนการออมให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
หากพบว่าเป้าหมายการออมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และเป้าหมายทางการเงินโดยรวมของเราแล้ว เราอาจต้องปรับเป้าหมายการออมให้เหมาะสม เช่น ปรับจำนวนเงินออมเพิ่มขึ้น ปรับระยะเวลาการออมให้นานขึ้น หรือเลือกผลิตภัณฑ์การออมที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้มากขึ้น การทบทวนเป้าหมายการออมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการออมที่ตั้งไว้ได้ นอกจากการทบทวนเป้าหมายการออมแล้ว เราควรหมั่นตรวจสอบแผนการออมและผลิตภัณฑ์การออมที่เราเลือกใช้อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการออมและผลิตภัณฑ์การออมยังเหมาะสมกับเป้าหมายและสถานการณ์ของเราอยู่หรือไม่ หากพบว่ามีสิ่งที่ต้องปรับปรุง เราควรรีบดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม การติดตามและตรวจสอบแผนการออมอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการออมที่ตั้งไว้ได้
นอกจากแนวทางการวางแผนเก็บเงินข้างต้นแล้ว ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมในการวางแผนเก็บเงินสำหรับการสร้างครอบครัว ดังนี้
- เริ่มต้นเก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้มีเวลาเก็บเงินได้มากขึ้น
- หารายได้เสริมเพิ่ม เพื่อเพิ่มเงินเก็บ
- จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามค่าใช้จ่ายต่างๆ
- เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากเงินเก็บ
การวางแผนเก็บเงินสำหรับการสร้างครอบครัว ต้องอาศัยความตั้งใจและวินัยในการปฏิบัติตามแผน หากสามารถวางแผนเก็บเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข