ภาษี เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องจ่ายเมื่อมีการได้รับรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินรางวัล หรือเงินได้อื่นๆ ตามกฎหมายกำหนด แต่เราสามารถลดหย่อนภาษีได้บางส่วน เพื่อช่วยลดภาระในการจ่ายภาษีลงได้
รวมรายการ ลดหย่อนภาษี 2566 มีอะไรบ้าง
ลดหย่อนภาษี หมายถึง รายการค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้สามารถนำไปหักออกจากเงินได้เพื่อคำนวณภาษีที่ต้องเสีย โดยผู้มีเงินได้สามารถหักลดหย่อนภาษีได้เฉพาะรายการที่มีกำหนดไว้เท่านั้น การลดหย่อนภาษีจะช่วยให้ผู้มีเงินได้เสียภาษีน้อยลง
รายการลดหย่อนภาษี 2566
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท (สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสและมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี)
- ค่าลดหย่อนบุตร จำนวน 30,000 บาท/บุตร (สำหรับบุตรโดยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว และต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุไม่เกิน 25 ปี โดยหากบุตรมีอายุ 25 ปีบริบูรณ์ในปีภาษีนั้น แต่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ก็สามารถลดหย่อนได้)
- ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ จำนวน 25,000 บาท/ปี (สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายให้กับตนเอง คู่สมรส และบุตร)
- ค่าเบี้ยประกันชีวิต จำนวน 100,000 บาท/ปี (สำหรับเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายให้กับตนเอง คู่สมรส และบุตร)
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม จำนวน 50% ของเงินสมทบ (สำหรับเงินสมทบกองทุนประกันสังคมที่จ่ายให้กับตนเอง คู่สมรส และบุตร)
- เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จำนวน 15% ของเงินสมทบ (สำหรับเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จ่ายให้กับตนเอง)
- เงินบริจาค จำนวน 2 เท่า (แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน)
ตัวอย่างการคำนวณลดหย่อนภาษี
สมมติว่า นายสมชาย มีรายได้ในปีภาษี 2566 เป็นเงิน 100,000 บาท นายสมชายมีคู่สมรสและบุตร 1 คน โดยคู่สมรสมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และบุตรมีอายุ 18 ปี
ค่าลดหย่อนภาษีของนายสมชายมีดังนี้
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาท
- ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ 25,000 บาท
- ค่าเบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาท
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม (นายสมชาย + คู่สมรส + บุตร) = 50,000 บาท
- เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (นายสมชาย) = 7,500 บาท
- เงินบริจาค 2 เท่าของเงินบริจาคจริง (สมมตินายสมชายบริจาคเงิน 5,000 บาท) = 10,000 บาท
ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสียของนายสมชายจะคำนวณจากเงินได้สุทธิ (100,000 บาท – 202,500 บาท) คูณด้วยอัตราภาษีตามฐานเงินได้สุทธิ
เทคนิคการลดหย่อนภาษี
นอกจากรายการลดหย่อนภาษีที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ผู้มีเงินได้ยังสามารถวางแผนการลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม ดังนี้
- วางแผนการออมเงิน โดยการออมเงินผ่านกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ซึ่งสามารถนำเงินออมไปลดหย่อนภาษีได้ฃ
- วางแผนการใช้จ่าย โดยการใช้จ่ายเงินไปกับรายการที่กฎหมายกำหนดให้สามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันชีวิต การศึกษา บริจาค เป็นต้น
การลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิของผู้มีเงินได้ตามกฎหมาย ผู้มีเงินได้ควรศึกษารายการลดหย่อนภาษีที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อวางแผนการลดหย่อนภาษีให้คุ้มค่าที่สุด