Moneysabuy.com เว็บไซต์ แนะนำ สินเชื่อส่วนบุคคล เงินสด ทันใจ สินเชื่อ ธนาคาร อนุมัติง่าย

Search
Close this search box.
อยากซื้อรถราคา 8 แสน

อยากซื้อรถราคา 8 แสน ควรมีรายได้เท่าไหร่

ความฝันของการเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่โดยเฉพาะรถยนต์ที่คุณต้องการมานาน อาจจะเป็นเป้าหมายที่ทุกคนมุ่งหวัง แต่คำถามที่คุณควรพิจารณาก่อนที่จะก้าวเข้าสู่บันทึกเป็นเจ้าของรถคือหาก อยากซื้อรถราคา 8 แสน ควรมีรายได้เท่าไหร่ ในการตัดสินใจซื้อรถไม่เพียงแต่คำนวณราคารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของการเงินและรายได้ปัจจุบันของคุณอย่างใกล้ชิด ดังนั้นในบทความนี้เราจะสอนคุณวิธีการคำนวณรายได้ที่เหมาะสมเพื่อซื้อรถยนต์ในราคา 800,000 บาท โดยใช้ข้อมูลและสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อให้คุณทำการตัดสินใจอย่างมั่นใจ และสามารถตั้งเป้าหมายในการเตรียมการทางการเงินอย่างเหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

อยากซื้อรถราคา 8 แสน ควรมีรายได้เท่าไหร่

อยากซื้อรถราคา 8 แสน

มาดูกรายได้เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมซื้อรถรุ่นเล็กๆสัก 7-8 แสน กรณีถ้าเราผ่อนแบบปกติ ผ่อนแบบปกติทั่วไปคือ 60 งวดหรือประมาณ 5 ปีก็น่าจะต้องมีเดือนละหมื่นกว่าบาท ดังนั้น สมมุติตีตัวเลขกลมๆว่า 15,000 บาท และมันก็ต้องผ่อนไม่เกิน 40% ของรายได้โอเคไหม ดังนั้นคุณควรจะมีรายได้สักประมาณเกือบๆ 40,000 บาทต่อเดือน ถึงจะเซฟตัวเองได้เพราะว่าเราก็ต้องคิดต่อด้วยว่าหากมีรถยนต์แล้วเรายังต้องจ่ายค่าน้ำมันด้วย หลักการง่ายๆ ก็ตีกลมๆให้เราเอาค่ารถของเราแบบยังไม่ต้องคิดดอกเบี้ย ก็จะเป็น 60 งวดจะตกประมาณ 13,000 บาท หากมีดอกเบี้ยนิดนึงประมาณ 15,000 บาท เงินผ่อนมันไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ใช่ไหม ก็เอาไปทำการคูณ 100 จากนั้นทำการหารด้วย 40 ดังนั้นรายได้ที่ควรมีคือ 30,000-45,000 บาทนี้ก็เป็นหลักการง่ายๆทั้งนี้หมายความว่าเราไม่ได้มีหนี้อื่นอยู่ด้วยนะ แล้วก็การซื้อรถนอกเหนือจากดูค่าผ่อนแล้วก็อย่าลืมดูค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน ค่าประกัน ค่าตรวจสภาพรถ ค่าต่อทะเบียน ดังนั้นอย่าลืมดูให้ครบด้วยว่าเราไหวหรือไม่อย่างไร

ปัจจัยสำคัญหากอยากซื้อรถยนต์ราคา 800,000 บาท

อยากซื้อรถราคา 8 แสน

การซื้อรถใหม่ราคา 800,000 บาทเป็นการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ และการกำหนดว่าคุณควรมีรายได้เท่าไหร่ในการดำเนินการนี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงราคารถและความสามารถในการชำระหนี้ นี่คือขั้นตอนที่ควรพิจารณา:

  1. ราคารถ: 800,000 บาท เป็นเงินที่ต้องการในการซื้อรถ แต่ควรพิจารณาว่าคุณจะชำระราคานี้ทั้งหมดหรือใช้เงินดาวน์ เงินดาวน์คือเงินที่คุณจ่ายล่วงหน้าในขณะที่ยังคงเป็นเจ้าของรถ ยอดดาวน์มักจะมีบางส่วนของราคารถ และอาจต้องการเงินดาวน์ที่มากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นตามสถานการณ์ของคุณ
  2. อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์มีผลในการคำนวณค่าผ่อนรถของคุณ ควรทราบว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นเท่าไร อาจต้องตรวจสอบกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณวางแผนจะกู้เงินจากนั้นคำนวณว่าค่าผ่อนรถรวมเดือนละเท่าไร
  3. ระยะเวลาผ่อนชำระ: ค่าผ่อนรถขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณเลือกในการผ่อนชำระ ยาวขึ้นราคาผ่อนลดลง ควรพิจารณาว่าคุณสามารถรับผิดชอบการผ่อนรถได้ในระยะเวลากี่ปี
  4. ค่าประกัน: รถยนต์ต้องมีประกันภัย ค่าประกันจะขึ้นอยู่กับรถและประเภทของประกันที่คุณเลือก ควรนำค่าประกันเข้ามาคำนวณในรายจ่ายรายเดือน
  5. ราคาน้ำมันและค่าบำรุงรักษา: ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์รวมถึงค่าน้ำมัน เปลี่ยนถ่ายค่าบำรุงรักษาและค่าเบาะแสในระยะเวลาที่คุณใช้งานรถ
  6. ค่าจดทะเบียนและภาษี: ค่าจดทะเบียนและภาษีรถยนต์เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
  7. รายจ่ายอื่นๆ: ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าจอดรถ ค่าบริการจ่ายเงินผ่านทางอินเทอร์เน็ต ควรเพิ่มเข้าไปในการคำนวณรายจ่ายรายเดือน
  8. ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล: รายจ่ายส่วนบุคคล เช่น ค่าเช่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ ควรถูกนำเข้าสู่การคำนวณ
  9. รายได้ปัจจุบัน: รายได้ปัจจุบันของคุณเป็นตัวกำหนดสำคัญในการกำหนดว่าคุณสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
  10. การจ่ายหนี้อื่นๆ: หากคุณมีหนี้อื่นๆ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อการศึกษา ควรพิจารณาว่าการจ่ายหนี้รถยนต์นี้จะส่งผลต่อสามารถในการจ่ายหนี้อื่นๆ หรือไม่

เมื่อคุณได้คำนวณรายจ่ายทั้งหมดและรู้ค่าผ่อนรถต่อเดือน คุณสามารถทดลองกับอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนเพื่อดูว่าค่าผ่อนรถเหล่านี้สามารถรับได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าการกู้เงินมีความเสี่ยงและควรพิจารณาแผนการเงินที่รองรับและไม่ทำให้คุณตกเป็นลูกหนี้มีหนี้มากเกินไปในอนาคต ควรปรึกษากับที่ปรึกษาการเงินหรืออาจจะคิดซ้ำเกี่ยวกับการซื้อรถใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถรับมือกับการชำระหนี้และยังคงมีชีวิตที่มีความสุขต่อไปได้.