Moneysabuy.com เว็บไซต์ แนะนำ สินเชื่อส่วนบุคคล เงินสด ทันใจ สินเชื่อ ธนาคาร อนุมัติง่าย

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ ไม่แคร์ค่าไฟช่วงสิ้นเดือน

พอถึงช่วงหน้าร้อนทีไร บิลค่าไฟบานตะไทอย่างแน่นอน เพราะหลายๆบ้านคงต้องเปิดแอร์ให้ตัวเองเย็นฉ่ำ แก้อากาศที่ร้อนมากๆอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องยอมแลกกับค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายเยอะเป็นพิเศษ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีเปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ ไม่แคร์ค่าไฟ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย


บัตรกดเงินสดสำหรับคนเงินเดือนน้อย


เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ ไม่แคร์ค่าไฟช่วงสิ้นเดือน

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

ถึงแม้ว่าจะร้อนขนาดไหนหลายๆท่านก็คงจะกลัวค่าไฟมากกว่าความร้อนใช่ไหมละ แต่จะมีทางออกตรงไหนบ้างนะ ที่จะทำให้เราผ่านหน้าร้อนระอุแบบนี้ไปได้ แบบที่กระเป๋าเงินไม่แบนไปเสียก่อน วันนี้ my home มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้คุณ ได้เปิดแอร์อย่างสบายใจ แบบไม่ต้องห่วงค่าไฟ ที่พุ่งสูงปรี๊ดจนกุมหัว ได้ความเย็นฉ่ำเต็มร้อนจ่ายค่าไฟน้อยยยยยนิดเดียว เปิดแอร์ประหยัดไฟ

1 . ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ในบริเวณที่เหมาะสม

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • ถ้าอยากให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเปลืองพลังงาน และ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยไม่จำเป็นนั้น ก็ต้องเริ่มต้นจากความใส่ใจ ตั้งแต่ขั้นตอนของการติดตั้งคอมเพรสเซอร์เลยค่ะ ควรจะหาพื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสม ซึ่งควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน หรือ ดาดฟ้า รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับแสงแดดโดยตรง รวมทั้งมุมอับ ที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์นั้น เป็นตัวระบายความร้อน จึงควรอยู่ในที่ร่ม แนะนำว่าควรอย่างยิ่งที่จะยกสูงขึ้น เหนือพื้นที่ปกติ เพื่อให้อากาศจากคอมเพรสเซอร์ ถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ไม่เปลืองไฟค่ะ

2 . เปิดหน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเท ก่อนจะเปิดแอร์

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • ถ้ามีเวลาซักนิด ก่อนจะคว้ารีโมตมาเปิดแอร์ ควรอย่างยิ่งเลยนะคะ ที่จะเปิดประตู เปิดหน้าต่าง ให้อากาศบริสุทธิ์ภายนอก ได้เข้ามาถ่ายเทเอาอากาศเก่า ๆ ที่อับอยู่ในห้อง ออกไปด้านนอก เพราะนอกจากจะช่วยลดกลิ่นอับ ของอากาศที่อยู่ในห้องที่ปิดเอาไว้ตลอดทั้งวัน แล้วยังเป็นการช่วยระบายความร้อน ที่อาจสะสมในห้อง ให้ระบายออกไปได้ ทีนี้เมื่อเปิดแอร์ปุ๊ป ก็จะช่วยให้สามารถปรับอุณหภูมิในห้อง ให้เย็นลงได้ง่ายยิ่งขึ้น เครื่องปรับอากาศเองก็ได้ไม่ต้องทำงานหนักเกินไปนั่นเองค่ะ

3 . หลีกเลี่ยงการเพิ่มความชื้น ภายในห้อง

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • ถ้าในห้องนั้น มีสิ่งที่ก่อให้เกิดความชิ้นอยู่ แอร์ก็จะยิ่งทำงานหนัก และ กินไฟมากขึ้นไปด้วย โดยสิ่งที่เพิ่มความชื้นในห้องนั้น มีตั้งแต่การแต่งห้องด้วยต้นไม้ การตากผ้าในห้อง รวมถึงการที่ห้องมีความชื้นจากห้องน้ำ ที่อาจมีบานเกล็ดและปิดประตูไม่สนิท พื้นที่ที่ก่อให้เกิดความชื้นที่กล่าวมานี้ อาจเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็มีผลกับการทำงานของแอร์ไม่แพ้กันค่ะ

4 . หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ให้ความร้อน ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • เมื่อหน้าที่หลักของแอร์ คือการทำให้ห้องนั้นมีอุณหภูมิลดลง เพื่อได้อากาศที่เย็นสบาย การนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ให้ความร้อน ไปใช้ในห้องนั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้แอร์ ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรุงอาหารด้วยกระทะไฟฟ้า การใช้หม้อต้มน้ำร้อน หรือจะเป็นการใช้เตารีดก็ตาม ซึ่งถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ ก็จะเป็นการช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ทำงานลดลงได้เยอะเลยค่ะ

5 . ปิดประตู ปิดหน้าต่าง ให้สนิท

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • ก่อนเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ ต้องอย่าลืมตรวจสอบรอบ ๆ ห้องด้วยนะคะว่าปิดประตู ปิดหน้าต่าง และไม่มีช่องว่างที่จะทำให้อากาศร้อนจากภายนอกเข้ามา บางทีอาจเป็นหน้าต่างบานเกล็ด หรือ ประตูบานเลื่อน ที่ไม่ได้ดูให้ละเอียด ตรงจุดนี้จะทำให้อากาศจากภายนอกเข้ามาได้เรื่อย ๆ จึงทำให้แอร์ต้องเพิ่มการทำงานเพื่อรักษาความเย็นในห้องไว้ตลอด

6 . ตั้งเวลาปิดแอร์ ก่อนออกจากห้อง

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • ถ้าวางแผนการใช้แอร์และสามารถตั้งเวลาปิดได้ก็จะดีมากเลยค่ะ อย่างการตื่นนอน หรือ ออกจากห้อง ก็สามารถตั้งเวลา หรือ ปิดแอร์ก่อนสัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ให้แอร์ได้พักเร็วขึ้น เพราะหลังจากนั้นความเย็นในห้องก็ยังคงอยู่ แค่เปิดพัดลมเบา ๆ แทนก็เย็นสบาย แถมช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าด้วยค่ะ

7 . ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • การล้างแอร์ตามระยะเวลาที่เหมาะสมก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้นเหมือนกัน เพราะเมื่อส่วนต่าง ๆ ของแอร์สะอาด ไร้ฝุ่นและสิ่งสกปรก ก็จะไม่มีสิ่งที่ขัดขวางการทำงานของมอเตอร์แอร์รวมถึงส่วนต่าง ๆ ด้วย ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์ก็จะอยู่ที่ 6 เดือน แต่ถ้าหากมีการใช้งานหนักเป็นพิเศษโดยอาจเป็นบริเวณที่ติดถนนหรือมีการก่อสร้างก็อาจขยับเป็น 2-3 เดือนต่อครั้งได้ตามความเหมาะสม

8 . เปิดแอร์เท่าที่จำเป็น

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

  • สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะดูแลรักษา หรือ ใช้งานแอร์แบบไหนก็อาจไม่ช่วย เท่าการรู้จักใช้งานอย่างพอดี โดยเลือกเปิดแอร์เท่าที่จำเป็นนั่นเองค่ะ บางครั้งก็อาจเป็นความเคยชิน ที่พอเข้าห้องปุ๊บ ก็เปิดแอร์ปั๊บ แม้อากาศไม่ได้ร้อนมาก ซึ่งอาจเปลี่ยนมาเป็นการเปิดเฉพาะตอนนอนหรือเมื่ออากาศร้อนจริง ๆ รวมทั้งการอยู่ร่วมกันในห้องที่เปิดแอร์เพียงห้องเดียวแทนที่จะเปิดแอร์หลาย ๆ ห้องพร้อมกันค่ะ

วิธีใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด

เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

ไฟฟ้าแสงสว่าง

  • ควรปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง
  • เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้งาน
  • สำหรับบริเวณที่ต้องการความสว่างมาก ภายในอาคารควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ส่วนภายนอกอาคารควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม และหลอดไอปรอท
  • ควรใช้ฝาครอบดวงโคมแบบใสหากไม่มีปัญหาเรื่องแสงจ้า และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
  • พิจารณาใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงานที่ต้องการแสงสว่างจุดเดียว
  • ควรถอดปลั๊กอุปกรณ์ให้แสงสว่างเมื่อไม่ใช้เป็นเวลานาน
  • ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลาสติกปิด
    ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้ ซึ่งมีคำแนะนำในการใช้ดังนี้
  • หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนาด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีความสว่างเท่ากับ หลอด 20 วัตต์ และ 40 วัตต์แต่ประหยัดไฟกว่า และสามารถใช้แทนกันได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์
  • หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบัลลาสต์ภายในสามารภใช้แทนหลอดกลมแบบเกลียวได้ ส่วนหลอดที่มีบัลลาสต์ภายนอก จะมีขาเสียบเพื่อต่อกับตัวบัลลาสต์ที่อยู่ภายนอก
  • หลอด LED ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ และให้แสงสว่างเท่าหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ และหลอดใส้

เตารีด

  • เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน ซึ่งในการรีดแต่ละครั้งจะกินไฟมากดังนั้นจึงควรรู้จัดวิธีใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย
  • ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูว่าเตารีดอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ เช่น สาย ตัวเครื่อง เป็นต้น
  • ตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า
  • อย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะ
  • ดึงเต้าเสียบออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ
  • ควรพรมน้ำพอสมควร
  • ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้
  • ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ
  • ควรเริ่มรีดผ้าบาง ๆ ก่อน ขณะเตารีดยังไม่ร้อน
  • ควรดึงปลั๊กออกก่อนรีดเสร็จเพราะยังร้อนอีกนาน
  • ควรซักและตากผ้าโดยไม่ต้องบิด จะทำให้รีดง่ายขึ้น

พัดลม

  • เปิดความเร็วลมพอควร
  • เปิดเฉพาะเวลาใช้งาน
  • ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้

เครื่องเป่าผม

  • เช็ดผมก่อนใช้เครื่อง
  • ควรขยี้และสางผมไปด้วยขณะเป่า

เครื่องดูดฝุ่น

  • ควรเอาฝุ่นในถุงทิ้งทุกครั้งที่ใช้แล้วจะได้มีแรงดูดดี ไม่เปลืองไฟ

ตู้เย็น ตู้แช่

  • ตั้งอุณหภูมิพอสมควร
  • นำของที่ไม่ร้อนใส่ตู้เย็น
  • ปิดประตูตู้เย็นทันทีเมื่อนำของใส่หรือออก
  • ปิดประตูตู้เย็นให้สนิท
  • หากยางขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข
  • เลือกตู้เย็นหรือตู้แช่ชนิดมีประสิทธิภาพสูง
  • ควรใช้ตู้เย็นขนาดเหมาะกับครอบครัว
  • ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน ให้หลังตู้ห่างจากฝาเกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบายความร้อนได้สะดวก ไม่เปลื่องไฟฟ้า
  • ควรหมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน
  • ควรเก็บเฉพาะอาหารเท่าที่จำเป็น
  • ตู้เย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่าแบบ 2 ประตู
  • หมั่นละลายน้ำแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำแข็งเกาะหนามาก

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า

  • หากใช้อย่างถูกต้องสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มาก ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้
  • ควรหุงข้าวให้พอดีกับจำนวนผู้รับประทาน
  • ควรถอดเต้าเสียบออกเมื่อข้าวสุกแล้ว
  • อย่าทำให้ก้นหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ข้าวสุกช้า
  • หมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด จะทำให้ข่าวสุกช้าและเปลืองไฟ
  • ใช้ขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
  • ควรดึงปลั๊กออกเมื่อข้าวสุกพอแล้ว
  • ใส่น้ำให้มีปริมาณพอควร
  • ควรปิดฝาให้สนิทขณะหุงข้าว

เครื่องซักผ้า

  • ควรใส่ผ้าแต่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไป และไม่มากจนเกินกำลังเครื่อง
  • ควรใช้น้ำเย็นซักผ้า ส่วนน้ำร้อนให้ใช้เฉพาะกรณีรอยเปื้อนไขมันมาก
  • ควรใส่ผ้าที่จะซักตามคำแนะนำของแต่ละเครื่อง
  • หากมีผ้าต้องซัก 1-2 ชิ้น ควรซักด้วยมือ
  • หากมีแสงแดดไม่ควรใช้เครื่องอบแห้ง ควรจะนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จมาตากแดด

เตาอบ เตาไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ใช้ความร้อนมาทำให้อาหารสุก หากให้ความร้อนสูญเสียไปโดยการใช้ไม่ถูกวิธี ทำให้อาหารสุกช้าลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีข้อแนะนำการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้อย่างประหยัดคือ

  • ควรเตรียมเครื่องปรุงในการประกอบอาหารให้พร้อมก่อนใช้เตา
  • ควรใช้ภาชนะก้นแบนและเป็นโลหะจะทำให้รับความร้อน จากเตาได้ดี
  • ในการหุ่งต้มอาหารควรใส่น้ำให้พอดีกับจำนวนอาหาร
  • ในระหว่างอบอาหารอย่าเปิดตู้อบบ่อย ๆ
  • ถอดเต้าเสียบทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จเรียบร้อย
  • ควรหรี่ไฟและปิดฝาหม้อในกรณีที่ต้องเคี่ยว
  • ควรใช้พาหนะก้นแบนขนาดพื้นที่ก้นเหมาะกับพื้นที่หน้าเตาและใช้พาหนะที่มีเนื้อโลหะรับความร้อนได้ดี หากเป็นไปได้ให้ใช้กับเตาไฟฟ้าซึ่งมีขายทั่วไปอยู่แล้ว
  • ควรปิดฝาภาชนะให้สนิทขณะตั้งเตา

เครื่องทำน้ำอุ่น

  • ปรับปุ่มความร้อนให้เหมาะสมกับร่างกาย
  • ปิดวาล์วทันทีเมื่อไม่ใช้งาน
  • หากมีรอยรั่วควรรีบทำการแก้ไขทันที
  • ต่อสายลงดินในจุดที่จัดไว้ให้ของเครื่องทำน้ำอุ่น
  • ปิดสวิชต์ไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่อง
  • ใช้เครื่องขนาดพอสมควร
  • ปรับความร้อนไม่ให้ร้อนเกินความจำเป็น
  • ปิดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
  • ในฤดูร้อนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่น
  • ควรใช้น้ำอุ่นที่ได้ความร้อนจากแสงอาทิตย์

ก่อนจะจากกันนอกจากบทความดีๆ แล้ว วันนี้ทาง moneysabuy เราขอแนะนำ บทความดีๆเพิ่มเติมที่ ลิงค์ด้านล่างนี้  รับรองว่าท่านผู้อ่านจะไม่พลาดบทความการเงินดีๆอย่างแน่นอน…

บทความแนะนำ

นอกจากนี้หากท่านกำลังต้องการ สินเชื่อเงินด่วนทันใจ อนุมัติง่ายที่สุด ที่ออกมาเพื่อเป็นช่องทางสำหรับคนที่ต้องการเงินกู้จำนวนไม่มากหรือเงินด่วนที่หมุนไม่ทันสามารถเข้าถึงเงินจำนวนนี้ได้ง่ายมากขึ้น โดยท่านที่สนใจสามารถไปดูเพิ่มได้ที่ ลิงค์นี้เลย : วิธีสมัครสินเชื่อ truemoney kkp cash now เงินกู้สมัครง่ายผ่านมือถือ