รู้หรือไม่ว่า คุณสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท เพียงแค่ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ Easy E-Receipt และนำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) มาใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี ตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้
วิธีตรวจสอบเอกสารลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt
มาตรการ Easy E-Receipt เปิดให้บุคคลธรรมดาสามารถนำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 50,000 บาท ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สำหรับเอกสารที่จะนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้นั้น จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้
- เอกสารต้องออกโดยผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- เอกสารต้องออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
- เอกสารต้องเป็นไปตามรูปแบบและมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด
หากมีข้อสงสัยว่าเอกสารใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีที่ได้มานั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานในการยื่นลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ www.validation.teda.th
- หากเป็นเอกสาร e-Tax Invoice & E-Receipt ให้ดูคำว่า “ผลการตรวจสอบ XML-Schema and Schematron (XML-Schema and Schematron Result)” ควรขึ้นว่า “ผ่าน” และถ้าจะให้ดี พวก Digital Signature ต่าง ๆ ควรจะขึ้นว่า “น่าเชื่อถือ” ด้วย
- หากเป็นเอกสาร e-Tax Invoice by e-mail ดูรายละเอียดตรงคำว่า “ผลการตรวจสอบ PDF-Timestamp (PDF-Timestamp Result)” ต้องขึ้นว่า “น่าเชื่อถือ”
ตรวจสอบกับผู้ประกอบการก่อนซื้อ
วิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบกับผู้ประกอบการก่อนซื้อว่า ผู้ประกอบการมีระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ และเอกสารที่ออกนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ โดยผู้ประกอบการจะต้องแสดงสัญลักษณ์ Easy E-Receipt บนใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลของผู้ขาย ข้อมูลในใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และรายละเอียดอื่นๆ ประกอบการพิจารณาได้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อกรมสรรพากรได้ที่ Call Center 1161
