การตกงานเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากท่านมีเงินสำรองฉุกเฉินจะช่วยให้เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยไม่เดือดร้อน ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน หากต้องตกงาน ว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง
วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน แบบละเอียด
เงินสำรองฉุกเฉิน คือ เงินสดที่เก็บไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น การตกงาน เจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด การมีเงินสำรองฉุกเฉินจะช่วยให้เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยไม่เดือดร้อน เงินสำรองฉุกเฉินนั้นมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางการเงินของเรานั้นก็เพราะจะช่วยให้เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยไม่เดือดร้อน สำหรับจำนวนเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมนั้น โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน โดยมี วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน ดังนี้
วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน มีดังนี้
- คำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็น : ขั้นตอนแรกคือ การคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และความต้องการ เช่น หากมีครอบครัว อาจมีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาบุตรหรือค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
- คำนวณค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น : นอกจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าเสื้อผ้า ค่าความบันเทิง ค่าของใช้ส่วนตัว เป็นต้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและสถานการณ์ เช่น หากมีงานอดิเรกที่ต้องใช้จ่ายเงินมาก ก็อาจจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอื่นๆลง
- กำหนดระยะเวลาในการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน : ระยะเวลาในการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินขึ้นอยู่กับความแน่นอนของรายได้และค่าใช้จ่าย เช่น หากรายได้ไม่แน่นอน ก็อาจจำเป็นต้องเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้นานขึ้น
สูตรคำนวณจำนวนเงินสำรองฉุกเฉิน
สำหรับจำนวนเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมนั้น โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน ตัวอย่างเช่น หากมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน 10,000 บาท ก็ควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน 30,000-60,000 บาทโดย ตัวอย่างการคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน มีดังนี้
- หากคุณมีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน 10,000 บาท ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อเดือน 5,000 บาท และต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้นาน 6 เดือน ดังนั้นจำนวนเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมคือ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน นั่นคือ 30,000-60,000 บาท หากต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้นาน 6 เดือน จะต้องเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเดือนละ 5,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมนั้น อาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น
- ความแน่นอนของรายได้ หากรายได้ไม่แน่นอน ก็อาจจำเป็นต้องเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้นานขึ้น
- ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมาก ก็อาจจำเป็นต้องเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้มากขึ้น
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาระหนี้สิน ความต้องการใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ เราควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ให้รอบคอบ เพื่อกำหนดจำนวนเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมกับตนเอง นอกจากนี้ เราควรเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากประจำที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อให้เราสามารถเบิกถอนเงินได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็น
ทริคการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินแบบง่ายๆ
- กำหนดเป้าหมายและวางแผนการใช้จ่าย : การวางแผนจะช่วยทำให้เราสามารถเก็บเงินสำรองฉุกเฉินได้ตามเป้าหมาย เช่น หากตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้ครบภายใน 6 เดือน ก็ควรวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าว่าในแต่ละเดือนจะต้องเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเดือนละเท่าไร
- เริ่มเก็บเงินสำรองฉุกเฉินตั้งแต่วันนี้ : ยิ่งเริ่มเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเร็วเท่าไหร่ เราก็จะมีเงินสำรองฉุกเฉินมากขึ้นเท่านั้น
- หาวิธีเพิ่มรายได้ : หากรายได้ไม่เพียงพอที่จะเก็บเงินสำรองฉุกเฉินตามเป้าหมาย ก็อาจหาวิธีเพิ่มรายได้ เช่น ทำงานพิเศษ ขายของออนไลน์ เป็นต้น
- อดทนและมุ่งมั่น : การเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทนและมุ่งมั่น หากเราอดทนและมุ่งมั่น เราก็จะสามารถเก็บเงินสำรองฉุกเฉินได้ตามเป้าหมาย
การมีเงินสำรองฉุกเฉินจะช่วยให้เรามีความอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้น ช่วยให้เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยไม่เดือดร้อน