สำหรับลูกหนี้ที่เบี้ยวหนี้อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเครดิตและทรัพย์สินของลูกหนี้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเช็คลูกหนี้ที่ใกล้จะถูกฟ้องเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับขั้นตอน วิธีเช็คลูกหนี้ที่ใกล้จะถูกฟ้อง ดูได้อย่างไรเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปหาคำตอบกัน
วิธีเช็คลูกหนี้ที่ใกล้จะถูกฟ้อง ดูได้อย่างไร
สำหรับวิธีเช็คลูกหนี้ที่ใกล้จะถูกฟ้องได้หลายวิธี เช่น ไปเช็คจากเว็บไซต์ของเครดิตบูโรหรือจากบริษัทข้อมูลเครดิต โดยสามารถดูข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้ ซึ่งหากลูกหนี้มีประวัติการเบี้ยวหนี้ก็จะแสดงอยู่ในประวัติเครดิต หรือไปเช็คจากกรมบังคับคดีสามารถทำได้จากเว็บไซต์ของกรมบังคับคดี โดยสามารถดูข้อมูลการฟ้องร้องของลูกหนี้ได้ ซึ่งหากลูกหนี้ถูกฟ้องร้องก็จะแสดงอยู่ในข้อมูลการฟ้องร้อง หรือทำการเช็คจากบริษัทข้อมูลเครดิตสามารถทำได้จากเว็บไซต์ของบริษัทข้อมูลเครดิต โดยสามารถดูข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้ ซึ่งหากลูกหนี้มีประวัติการเบี้ยวหนี้ก็จะแสดงอยู่ในประวัติเครดิต สรุปวิธีเช็คลูกหนี้ที่ใกล้จะถูกฟ้องได้หลายวิธี เช่น
- เช็คจากประวัติเครดิตของลูกหนี้
- เช็คจากกรมบังคับคดี
- เช็คจากบริษัทข้อมูลเครดิต
นอกจากนี้เจ้าหนี้และลูกหนี้โดยปกติก่อนที่เขาจะฟ้องเนี่ยนะเขาก็อาจจะมีการติดต่อมาพูดคุยก่อน และหากยังไม่จ่ายทางเจ้านี้จะติดต่อเพื่อให้เงื่อนไขสุดท้ายยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้อยากจะตอนนี้ปรับลดเบี้ยปรับอะไรต่างๆให้ลดหนี้จากเท่านั้นเหลือเท่านี้ถ้าจ่ายในงวดเดียวภายในสิ้นเดือนนี้ หากท่านได้ข้อเสนอนี้เเสดงว่านี้อาจจะเป็นข้อเสนอครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าหนี้จะนำไปสู่เรื่องของการฟ้องร้อง หรือเจ้าหนี้บางเจ้าก็ไม่บอกก็มีจะฟ้องเลยก็มีแต่มีน้อยส่วนสถานะของการถูกฟ้องเนี่ยนะถ้าท่านไม่ใช่ข้าราชการหรืออะไรต่างๆท่านยังสามารถไปเจรจากันที่ศาลได้ หรือบ้างท่านพอจะหาเงินมาก็สามารถไปใช้เจรจาได้ สิ่งสำคัญคือพยายามติดต่อกลับไปที่ธนาคารหรือเจ้าหนี้โดยพยายามเจรจากับเจ้าหนี้ อย่าหนีหนี้ ต่อรองไม่มีเงินก้อนก็พยายามทยอยผ่อนก็ยังดีกว่าหนีหาย ถ้าไม่พร้อมไปจบที่ศาลก็ยังคุยได้อยู่
เบี้ยวหนี้ จะเจอข้อหาอะไรบ้าง
การไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น รายได้ไม่เพียงพอ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือตั้งใจไม่ชำระหนี้ เบี้ยวหนี้เป็นความผิดทางแพ่งและอาญา ดังนี้
- ความผิดทางแพ่ง : ลูกหนี้ที่เบี้ยวหนี้อาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าหนี้ โดยศาลอาจพิพากษาให้ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยและค่าทนายความ
- ความผิดทางอาญา : ลูกหนี้ที่เบี้ยวหนี้อาจถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกง ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในกรณีที่ลูกหนี้เบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิดำเนินการดังนี้
- ติดต่อลูกหนี้เพื่อทวงถามหนี้
- ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายบังคับคดีกับศาล
- บังคับคดียึดทรัพย์สินของลูกหนี้เพื่อชำระหนี้
ดังนั้นหากคุณกำลังประสบปัญหาหนี้สิน สิ่งสำคัญคือต้องรีบดำเนินการแก้ไข คุณสามารถติดต่อเจ้าหนี้ของคุณโดยตรงและเจรจาข้อตกลงการชำระหนี้ คุณอาจสามารถเจรจาเพื่อลดจำนวนเงินที่คุณเป็นหนี้หรือยืดระยะเวลาการชำระหนี้ได้ หากคุณไม่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ของคุณได้ คุณอาจจำเป็นต้องฟ้องร้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม สถานะของการถูกฟ้องร้องต่อศาลไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสูญเสียทรัพย์สินของคุณทั้งหมด คุณยังสามารถเจรจากับศาลเพื่อหาข้อตกลงการชำระหนี้ได้ กรณีที่มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ทั้งหมดของคุณ คุณอาจสามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้ หน่วยงานเหล่านี้สามารถให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการเจรจากับเจ้าหนี้ของคุณ และอาจสามารถให้เงินช่วยเหลือเพื่อชำระหนี้ของคุณได้อีกด้วยสิ่งสำคัญคือต้องอย่าหนีจากปัญหาหนี้สิน การหนีจากปัญหาหนี้สินจะไม่ทำให้ปัญหาของคุณหายไป แต่จะยิ่งทำให้ปัญหาของคุณแย่ลงเท่านั้น รีบดำเนินการแก้ไขหนี้สินของคุณโดยเร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้